Calcium Chloride แคลเซียม คลอไรด์

แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2) มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว ส่วนมากใช้ในงานอุตสาหกรรมทั่วไป อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหรรมการเกษตร เป็นสารที่ดูดซับความชื้น และละลายได้ดีในน้ำ เกลือแคลเซียมคลอไรด์ ในรูปที่ปราศจากน้ำละลายได้ในน้ำประมาณ 59 กรัมต่อน้ำ 100 มิลลิลิตร ที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส ขณะที่ละลายจะคายความร้อนออกมาด้วย  แคลเซียมคลอไรด์ใช้ประโยชน์เป็นสารเติมแต่งอาหารและเป็นสารช่วยให้ผักและผลไม้มีเนื้อสัมผัสแข็ง (firming agent) นิยมใช้กับผลไม้ก่อนนำไปบรรจุกระป๋อง เช่น ลิ้นจี่ ลำไย แอปเปิล มะเขือเทศ และมันฝรั่ง ที่ความเข้มข้นไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ การใช้ปริมาณแคลเซียมคลอไรด์มากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับปริมาณเพกทินที่มีอยู่ในผักและผลไม้ชนิดนั้นๆ นอกจากนี้ยังใช้เติมลงในน้ำนมระหว่างการผลิตเป็นน้ำนมระเหยน้ำที่ความเข้มข้นไม่เกิน 0.1 เปอร์เซ็นต์ เพื่อปรับภาวะสมดุลของเกลือ จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำนมตกตะกอนระหว่างการทำให้ปราศจากจุลินทรีย์

รหัสสินค้า: Calcium Chloride แคลเซียม คลอไรด์ หมวดหมู่: , ป้ายกำกับ: ,

คำอธิบาย

ประโยชน์ด้านต่างๆ

ประโยชน์ของแคลเซียมคลอไรด์

– งานเทคอนกรีตนิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์เป็นสารเร่งการแข็งตัว และเพิ่มกำลังรับแรงอัดของคอนกรีตในช่วงอายุต้นๆ

– สารละลายแคลเซียมคลอไรด์นิยมใช้รักษา และยืดอายุผลผลิตทางการเกษตร เช่น ผัก ผลไม้หลายชนิด โดยการฉีดพ่นสารละลายทั้งก่อน และหลังการเก็บเกี่ยว หรือจุ่มผลผลิตในสารละลายโดยตรง

– ในอุตสาหกรรมบางชนิด นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์สำหรับดูดซับความชื้นหรือดูดซับน้ำออกจากตัวทำละลาย

– ในอุตสาหกรรมอาหารผลไม้กระป๋อง นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์เพื่อเพิ่มความกรอบให้แก่ผลไม้

– ในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์เพิ่มความนุ่มของผลิตภัณฑ์เนื้อต่างๆ เช่น เนื้อโค เนื้อไก่ เป็นต้น

– ในอุตสาหกรรมบางชนิด นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์สำหรับสำหรับยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ในอาหาร

– ในอุตสาหกรรมอาหารบางชนิด นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์เพื่อเพิ่มรสชาติ และสกัดโปรตีนออกจากเนื้อ เช่น การผลิตไส้กรอก การผลิตเนื้อหมัก

ข้อควรระวังในการใช้

– ขณะใช้ต้องสวมผ้าปิดจมูก แว่นตากันสารเคมี สวมเสื้อผ้า รองเท้าบูท สวมถุงมือ และอุปกรณ์ป้องกันสารเคมีอื่นๆทุกครั้ง

– เมื่อละลายน้ำไม่ควรสูดดม เพราะจะได้รับไอระเหยของคลอรีนได้ง่าย

– ระวังการสัมผัสกับโลหะทุกชนิด เพราะจะเกิดการกัดกร่อน

การจัดเก็บ

– เก็บในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิด

– เก็บในที่ที่แห้งและเย็นและมีการระบายอากาศในพื้นที่ดี

– ป้องกันการเสียหายทางกายภาพ แคลเซียมคลอไรด์ที่ชื้นหรือสารละลายที่เข้มข้นสามารถกัดกร่อนเหล็กได้

– แคลเซียมคลอไรด์จะถูกซับน้ำจากบรรยากาศและเปลี่ยนรูปเป็นสารละลายได้

– ภาชนะบรรจุของสารนี้ที่เป็นถังเปล่า แต่มีการสารเคมีตกค้าง เช่น ฝุ่น ของแข็งอาจทำให้เกิดอันตรายได้

 

 

เหมาะสำหรับ

แคลเซียมคลอไรด์ (Calcium chloride) ใช้เติมลงในน้ำลวก น้ำแช่ผักและผลไม้ ช่วยเพิ่มความคงตัว ทำให้เนื้อแน่น สมัยโบราณใช้น้ำปูนใส (ใช้ปูนขาวหรือปูนแดงผสมกับน้ำ แล้วปล่อยให้ปูนตกตะกอน) หรือใช้สารส้มแกว่งในน้ำ แต่สารเหล่านี้จะมีปัญหาเรื่องความเข้มข้นที่ใช้ไม่แน่นอน ปัจจุบันจึงนิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์แทน ปริมาณที่ใช้คือ 5 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร แช่นาน 15-20 นาที

ปัญญาเคมีภัณฑ์ ดำเนินธุรกิจด้านเคมีภัณฑ์ เพื่อจำหน่ายแก่อุตสาหกรรมต่างๆ สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า และให้คำปรึกษาเชิงเทคนิค เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์สูงและเป็นมืออาชีพ ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ

       มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อความพึงพอใจสูงสุด